วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ถากไม้...ให้ถึงแก่น




ถากไม้...ให้ถึงแก่น




ศาสนาพุทธนี่ท่านเปรียบไว้
เหมือนว่ามี ราก แก่น เปลือก กระพี้ กิ่ง ก้าน ใบ
การที่พระพุทธเจ้าพูดถึงอริยมรรค อริยผล 
การที่พระพุทธเจ้าพูดถึงมรรคมีองค์แปด อริยสัจสี่ 
ศีล สมาธิ ปัญญา การปฏิบัติบำเพ็ญเพียรนี่ 
วกนี้คือแก่น เป็นแก่น ...พระพุทธเจ้าเปรียบเป็นแก่น เป็นหลัก 

แต่คราวนี้ว่าหลักหรือแก่น  เหมือนแก่นไม้นี่ มันอยู่เองไม่ได้ 
ถ้าไม่มีเปลือก ไม่มีกระพี้ ไม่มีกิ่งก้าน ไม่มีใบ ไม่มีราก แก่นมันก็อยู่ไม่ได้

เพราะนั้นการนับถือ การทำบุญ การจัดงาน
 การสร้างพระหล่อพระ การสร้างเจดีย์ สร้างวัดวาอารามพวกนี้
มันเหมือน เปลือก กระพี้ ราก กิ่ง ก้าน ใบ ... 
แต่ว่าทั้งหมดน่ะมันมาอุ้ม มาประคับประคองหลัก...แก่นของศาสนาไว้ 
มันเกื้อหนุนกัน  ถ้าไม่มี หรือว่าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ศาสนาพุทธก็อยู่ไม่ได้

เพราะนั้นว่าถ้าเข้าใจแล้ว ต่างคนต่างก็มองกันด้วยความเป็นสันติ 
ทำไปทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้คงศาสนาไว้

แต่คราวนี้ว่า คนที่ทำ...กำลังทำอะไร ก็ต้องรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่  
เช่น กำลังทำอยู่ในแก่นก็ต้องรู้ว่าทำอยู่ในแก่น 
กำลังทำอยู่ในเปลือกกระพี้ ก็ต้องรู้ว่าอยู่ในเปลือกกระพี้ 
... ต้องเข้าใจ ให้เข้าใจอย่างนี้ก่อน 

เพื่ออะไร ...
เพื่อพัฒนาให้มันเป็นไปเพื่อหลักสูงสุดที่พระพุทธเจ้าวางหลักไว้
ก็คือการชำระจิตให้บริสุทธิ์  ซึ่งเป็น...สาระสูงสุดที่พระพุทธเจ้าต้องการ 

สาระเบื้องต้นก็คือ ทำบุญ ไม่ทำบาป ...
ไม่ทำบาปแล้วก็ทำบุญ ..นี่คือสาระเบื้องต้น 
แต่ว่าสาระที่พระพุทธเจ้าบอกว่า 
ถ้าไม่อยากมาทำบุญ ละบาปอีก...ก็อย่ามาเกิด ... 
นี่ คือการชำระจิต 
อันนี้คือเป้าหมายที่พระพุทธเจ้าต้องการที่สุด...
นั่นแหละคือหลัก หรือแก่น

และถ้าเข้าใจว่าตัวเองยังอยู่ในลักษณะของเปลือก กระพี้ ใบ อยู่  
ก็อย่างน้อยชะโงกหัวเข้ามาหน่อย ให้ถึงแก่นหน่อย  
แม้จะยาก แต่ต้องทำ ต้องฝึก ต้องไม่ให้ละเลยหลงลืมแก่น  
ไม่งั้นมันจะไปมัวเมาลุ่มหลง
อยู่กับสิ่งที่มันยังเป็นแค่เปลือกหรือกระพี้ 
คือมันละเลยหลงลืมแก่นไปเลย 

ซึ่งต่อไปนี่ แก่นมันจะเหลือนิดเดียว ... 
เลยพุทธชยันตีนี่ไป แก่นมันจะน้อยลงๆ  
แต่เปลือกกระพี้นี่มันจะกว้างใหญ่ขึ้น 
มากขึ้น จนหาแก่นแทบจะไม่เจอน่ะ
 ... เนี่ยสำคัญ สำคัญตรงนี้




จาก "คำสอน พระอาจารย์" 
แผ่น 8 แทร็ก 8/8



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น