วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เฉลยข้อ ก.กาย

ขอบพระคุณภาพ :  วัดพระสี่อิริยาบถ อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
Thanks for image  :  Wat Phra Si Iriyabote (Kamphaengphet)





พระอาจารย์ –  เพราะนั้นถ้าเพียรเพ่งลงที่กาย รู้เห็นแต่จำเพาะกายจริงๆ นี่ มันจะเห็นขันธ์ห้าเกิดดับ และก็จะเห็นว่าขันธ์ห้ามันเกิดที่ไหน เกิดจากอะไร ...ขันธ์ห้าเกิดมาจากจิตปรุงแต่ง

แต่ถ้าไปดูขันธ์ห้าเกิดดับ จะไม่เห็นกายตามความเป็นจริง จะไม่รู้จักกายตามความเป็นจริง ซึ่งกายตามความเป็นจริง ใจตามความเป็นจริงนี่ คือแก่น แก่นของขันธ์ห้า

คือมันเป็นตัวอ้างอิงของกิเลส ที่มันจะสร้าง...อาศัยกายใจนี่เป็นตัวอ้างอิงไปสร้างขันธ์ห้า เพราะนั้นถ้าไปดูขันธ์ห้าเกิดดับ มันก็ไม่มีการที่จะถึงที่สุดของขันธ์ห้าเกิดดับ ที่ว่าดับโดยสิ้นเชิง

มันจะดับได้ยังไงโดยสิ้นเชิง เพราะมันยังไม่รู้เลยว่าต้นตอของขันธ์ห้านี่ มันมาจากอะไร มันอ้างอิงอะไรเป็นการสร้างขันธ์ห้าขึ้นมา ...รูปเวทนาสัญญาสังขาร มันอ้างอิงอะไร

มันก็บอกตั้งแต่ต้น ตั้งแต่หัวข้อแรกแล้วว่า “รูป” ...รูปมันอ้างอิงกับอะไร ...มันอ้างอิงจากกาย การดำรงคงอยู่ของกายนี่ มันอ้างกาย

กิเลสมันอ้างกายขึ้นมาเป็นรูปลักษณ์ สถานะ วรรณะ สัณฐานขึ้นมา พอมีรูปปุ๊บนี่ เวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ พรึ่บ นี่ขันธ์ห้าเกิดแล้ว...โดยอ้างอิงกายเป็นหลัก

แต่ถ้าไปดูขันธ์ห้าเกิดดับ ดูขันธ์ห้าเกิดดับ แต่ไม่รู้ว่าต้นตอของขันธ์ห้านี่มันมาจากไหน จิตมันก็ยังอาศัยขันธ์ห้านี่เป็นเครื่องมือในการก่อร่างสร้างกิเลส

ความต่อเนื่อง ความสืบเนื่องในขันธ์ห้า ไม่มีคำว่าทุเลาเบาบางลงเลย ...มันต้องมาแก้ที่เหตุ หรือว่าต้นตอของขันธ์ห้า นี่...มันจะหนีพ้นกายใจได้ยังไง

จนกว่ามันจะรู้จริงรู้แจ้งว่ากายคือสักแต่ว่ากาย กายคือสักแต่ว่าการรวมตัวกันของธาตุ กายคือสักแต่ว่าสภาวะธาตุ สภาวะเวทนาที่เป็นเอกภาพเอกธรรม อิสรภาพอิสระธรรม ไม่ได้ขึ้นแก่ใครแล้วนั่นแหละ มันจึงจะเข้าใจ

ทีนี้กิเลสมันจะมาหลอกลวงสร้างกายสร้างรูปมาจากกายที่เป็นเราได้อย่างไร ขันธ์ห้ามันจะเกิดได้อย่างไร นี่ ...ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันตาย ขันธ์ห้าก็ดับก่อนแล้ว

พระพุทธเจ้าท่านถึงบอกว่าขันธ์ห้าเป็นของว่าง แล้วนอกจากว่างแล้ว ยังไม่มีขันธ์ห้าในเรา ยังไม่มีเราในขันธ์ห้าอีกด้วยซ้ำ และยิ่งกว่านั้น ท่านยังบอกว่าโลกสามโลกธาตุนี่ว่าง เป็นสุญโญ

เพราะนั้น กายใจที่เดียวนี่จบหมดน่ะ ทำให้มันได้เหอะ ทำให้มันจริงเหอะ ...แล้วก็จริงๆ จังๆ ลงไป เอาแบบว่าเก็บมันทุกเม็ดเลยน่ะ ไม่เอ้อระเหยลอยชาย

แบบภาษาที่เขาว่า อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ...อย่าปล่อยให้กิเลสมันลอยนวล อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว อย่าปล่อยจิต อย่าอยู่แบบเลื่อนๆ ลอยๆ ...เหนื่อยก็ต้องเหนื่อย ยากก็ต้องยาก

เพราะนั้น เมื่อรู้แล้วข้อสอบคืออะไร คำเฉลยข้อสอบคืออะไร ทีนี้ก็อยู่ที่ว่าต้องตั้งใจกามัน ...แล้วไม่ใช่แค่เข้าใจไปกาครั้งเดียวแล้วก็เลิก กาแล้วต้องคาไว้เลย

ไม่งั้นน่ะมันจะไปติ๊กข้ออื่น ไปเอาเรื่องที่อื่น มาเป็นเรื่อง แล้วมันจะไม่มีคำว่าจบเรื่องเลย ...เพราะนั้นมันต้องค้างคาอยู่ตรงนี้เลย จรด..จรดไว้เลย เอาจิตน่ะมาจรดไว้อยู่ตรงนี้ จรดไว้เลย

เพ่งก็เพ่งล่ะวะ คร่ำเคร่งก็ต้องคร่ำเคร่งล่ะวะ เครียดก็ต้องเครียดล่ะวะ ดีกว่าหลงน่ะ ดีกว่าหายน่ะ เครียดอยู่ในกาย ดีกว่าไปเครียดเรื่องกายคนอื่นน่ะ เอาป่าวล่ะ

ก็ต้องเครียดน่ะ เพราะมันจะออกจากทุกข์ได้นี่ มีช่องเดียวเท่านั้น นี่ มีช่องเดียวเท่านั้น ไม่มีช่องสำรองเลยน่ะ ...ตายตัว มรรคผลนี่ตายตัว ขาดตัวเลย ไม่มี choice ABC

เพราะนั้นการฟังนี่ ที่เราชี้แจงนี่...เหมือนกับเราบอก เราเฉลยข้อสอบให้แล้ว บอกแล้วข้อสอบที่ถูกคือข้อนี้ ...ไม่ผิดหรอก เราไม่ได้โกหกว่าข้อนี้ผิดหรือถูก เราบอกแล้วว่า...ถูกตรงๆ ถูกจริงๆ ถูกกว่าทุกข้อ

แต่ใครจะกาหรือไม่กา...อยู่ที่ตัวคนนั้น หรือว่ารู้แล้วยังไปกาข้ออื่น...ก็ไม่ว่ากัน





คัดลอกโดยตัดทอนและเรียบเรียงจาก

คำสอน "พระอาจารย์" 

(แผ่น 16) แทร็ก 16/28-30 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น